มาดูกันว่า AI มาช่วยเหลือในอุตสาหกรรมอาหารอย่างไรบ้าง?

          สวัสดีครับ อุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบันได้เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกิดขึ้น เราได้ตระหนักถึงอาหารนั้นเป็นมากกว่ากินให้อิ่มท้อง และมีรสชาติที่อร่อย จากการที่มีกระแสอาหารใหม่ ๆ ที่เริ่มมาเป็นกระแสหลัก เช่น ผักออร์แกนิก เนื้อสัตว์ทางเลือก

          การเปลี่ยนแปลงทางความคิดเกี่ยวกับอาหารเหล่านี้ ถือเป็นการผลักดันระบบอาหารที่ยั่งยืน ถึงแม้ว่าในอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกระแสความต้องหารของผู้บริโภคเพียงอย่างเดียวก็ตาม จริง ๆ แล้ว การผลิตอาหารในทั่วโลกต่างมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากกว่าหนึ่งในสี่ และยังใช้น้ำจืดไปเกือบสองในสามทั่วโลก

          จากปัญหาที่กล่าวมาในข้างต้น ปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างมีความละเอียด และเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นก็สามารถเข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้ เทคโนโลยีที่ว่าคือ การใช้ Artificial Intelligence และ Machine Learning เข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างระมัดระวังและมีประสิทธิภาพที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อความยั่งยืนของการผลิตอาหาร การขนส่งและการขาย รวมไปถึงการบริโภคอาหารทั่วโลก ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า AI จะมาช่วยเหลืออุตสาหกรรมอาหารอย่างไรบ้าง

เพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตร

          ท่ามกลางประชากรที่เพิ่มขึ้นกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเสื่อมโทรม และการใช้ทรัพยากรที่มากเกินไปของมนุษย์ ทำให้เกษตรกรกำลังเผชิญกับความยากลำบากต่อการหาทรัพยากรต่าง ๆ มาใช้ในการผลิตอาหารให้พวกเรา

          เราทุกคนต่างรู้ว่าเรายังต้องกิน สำหรับเกษตรกรนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องผลิตอาหารให้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง ซึ่งนอกจากเรื่องการเมืองในทั่วโลกที่ส่งผลกระทบในเรื่องนี้ด้วยแล้ว เรายังต้องมองว่าการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ของเกษตรกรนั้น มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลด้วย ซึ่ง AI สามารถนำมาช่วยเหลือในส่วนนี้ได้อย่างมาก

          เราสามารถใช้ความก้าวหน้าของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น การใช้โดรนในการตรวจสอบพืชผล ซึ่งเท่านั้นคงไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางการเกษตรที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่ง AI ที่สามารถเรียนรู้ข้อมูลและนำข้อมูลต่าง ๆ มาประมวลผลและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้ามาช่วยในตรงนี้ได้เช่นกัน

เราสามารถนำ AI เข้ามาช่วยคำนวณสภาพอากาศ การพัฒนาทางด้านข่าวสาร น้ำแข็งละลาย น้ำท่วม สภาพบรรยากาศทั่วโลก ความต้องการของตลาด สภาพดินในช่วงเวลาต่าง ๆ รวมไปถึงการรายงานสภาพพืชผลแบบเรียลไทม์ ทำให้เกษตรกรสามารถตอบสนองต่อสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ได้แม่นยำมากขึ้นอีกด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพในตลาด

          ในทุกวันนี้ อาหารที่เราได้ผลิตมากว่าหนึ่งในสามนั้นถูกทิ้งไปอย่างสูญเปล่า หากเราเปรียบเทียบอาหารที่ถูกทิ้งกลายเป็นขยะเป็นประเทศที่ผลิตคาร์บอนแล้วล่ะก็ ก็จะเป็นประเทศอันดับที่สามรองจากสหรัฐอเมริกาและจีนเลยทีเดียว

          การนำ AI เข้ามาแก้ปัญหาในด้านเกษตรก็อาจจะไม่มีความหมายถ้าเรายังคงกินทิ้งกินขว้างอยู่แบบเดิม การกินของผู้บริโภคมีบทบาทมากที่สุดในการลดขยะอาหาร

AI สามารถนำมาช่วยในการกำหนดราคาของสินค้าได้ และการใช้ AI ในการกำหนดราคาจะทำให้ลดการทิ้งของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ รวมไปถึง AI สามารถนำไปใช้ในพัฒนาในด้านการผลิต เพื่อผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น AI ยังช่วยในเรื่องของการติดตามและวิเคราะห์การขนส่งของอาหารจากฟาร์มสู่ผู้บริโภคได้ดีขึ้น โดยการใช้ข้อมูลในอดีตมาคาดการณ์ได้

การนำข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคลมาใช้

ยังมีพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่บ่งถึงการผลิตที่มีทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ ถึงแม้ในตอนนี้ข้อมูลจะเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในด้านสุขภาพส่วนบุคคล แต่เมื่อราคาอาหารเริ่มมีแนวโน้มที่จะสูงมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายของอาหารเช่นเดียวกับเกษตรกร

AI จะมีบทบาทสำคัญในตรงนี้ เนื่องจากผู้คนจะนำข้อมูลในด้านสุขภาพของตนเองเข้าไปอยู่ในรายการซื้อของมากขึ้น หากให้พูดง่าย ๆ คือ ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้และวิเคราะห์เพื่อแนะนำรายการสินค้าที่เหมาะสมกับผู้บริโภค เราลองนึกถึงตะกร้าสินค้าของเราได้แนะนำสูตรอาหารตามน้ำตาลในกระแสเลือด รูปแบบการนอนหลับ ความสดของผัก ซึ่งที่กล่าวมาทำให้เราได้ประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุดจากอาหารที่เราซื้อ

เขียนโดย Akiraz

KAI

อ้างอิงจาก Guest Contributors (2021) Why AI is the Future of the Food Industry, Available at: https://www.nasdaq.com/articles/why-ai-is-the-future-of-the-food-industry-2021-03-05 (Accessed: 22th September 2021).

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *