มาดูกันว่า Online Banking คืออะไร? ทำงานอย่างไร? แตกต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิมอย่างไรบ้าง?

         

สวัสดีครับ Online Banking นั้นช่วยให้เราสามารถจัดการบัญชีในธนาคารของเราผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้โดยเพียงแค่ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคาร และเรายังสามารถใช้บริการที่ทางธนาคารมีให้ได้อย่างสะดวก รวมไปถึงการทำธุรกรรมนอกเวลาธนาคารได้อีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูว่า Online Banking คืออะไร มีบริการอะไรบ้าง รวมไปถึงข้อดีและข้อเสียของ Online Banking ครับ

Online Banking คืออะไร

          Online Banking คือ การจัดการบัญชีธนาคารของเราด้วยคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน รวมไปถึงการโอนเงิน การฝากเช็ค และการจ่ายบิลทางอิเล็กทรอนิกส์

          ธนาคารแบบดั้งเดิมที่มีสาขาตามพื้นที่ต่าง ๆ มักจะอนุญาตให้ลูกค้าเข้าถึงบัญชีผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เช่นกันแต่ Online Banking หรือผู้ให้บริการออนไลน์นั้นเสนอการเข้าถึงบัญชีผ่านสมาร์ตโฟนเป็นหลัก ซึ่งเราจะไม่พบเห็นพนักงานของธนาคารเหล่านั้น ด้วยสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ เราสามารถเข้าถึงบัญชีของเราได้ตลอดเวลา

Online Banking ทำงานอย่างไร

          Online Banking ได้รับการออกแบบมาให้มีความสะดวกและประหยัดเวลา ทำให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินตามเวลาที่เราสะดวก แทนที่จะต้องไปทำเฉพาะช่วงที่ธนาคารเปิด เกือบทุกอย่างที่ธนาคารแบบดั้งเดิมสามารถทำได้ Online Banking ก็สามารถทำได้เช่นกัน

การเปิดบัญชี

          เราสามารถเปิดบัญชีในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้ ซึ่งโดยปกติเราไม่จำเป็นต้องพิมพ์หรือเซ็นอะไรให้ยุ่งยากในการเปิดบัญชี ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเราสามารถเซ็นชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้อาจจะใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาที

          หากเราเป็นลูกค้าของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ให้บริการ Online Banking เราสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้บริการได้ผ่านเว็บไซต์ของธนาคารนั้น ๆ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้

  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • อุปกรณ์ที่มีเว็บเบราว์เซอร์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน
  • หมายเลขบัญชีธนาคารของเรา
  • ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน เช่น วันเกิดและหมายเลขบัตรประชาชน

การลงทะเบียนนั้นมักจะใช้อีเมลและรหัสผ่านที่เราตั้งไว้ในการเข้าสู่ระบบ เมื่อเราลงทะเบียนเสร็จแล้ว เราสามารถล็อกอินเข้าสู่บัญชีของเราและเริ่มทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยการใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การจ่ายบิล

          แทนที่จะเขียนเช็คเพื่อจ่ายบิล ธนาคารสามารถพิมพ์และส่งเช็คให้เราได้ทุกเดือน แต่เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น เราสามารถส่งเงินไปยังผู้รับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แม้ว่ายอดค้างชำระเงินนั้นจะเปลี่ยนไปทุกเดือนก็ตาม

การโอนเงิน

          หากเราต้องการย้ายเงินออกจากบัญชีเงินฝากไปยังบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เราสามารถโอนเงินผ่านธนาคารทางช่องทางออนไลน์ได้ เรายังสามารถเชื่อมต่อบัญชีของเรากับธนาคารต่าง ๆ ได้รวมไปถึงการโอนเงินให้เพื่อนหรือครอบครัวได้แทบจะในทันที

การขอสินเชื่อ

          การขอสินเชื่อเป็นกระบวนการที่ต้องการเอกสารเป็นจำนวนมาก แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น การขอสินเชื่อออนไลน์สามารถช่วยให้กระบวนการตรวจสอบเครดิตรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ธนาคารของเราสามารถตอบกลับเราได้รวดเร็ว ผู้ให้บริการทางการเงินบางรายที่มีระบบการขอสินเชื่อแบบออนไลน์สามารถให้เงินแก่ผู้ขอสินเชื่อภายในวันเดียวกันหลังจากได้รับการอนุมัติเงินกู้ได้

การฝากเช็ค

          เมื่อมีใครจ่ายเงินให้เราด้วยเช็ค เราสามารถฝากเช็คจากที่บ้านได้ง่าย ๆ หากเรามีสมาร์ตโฟน การฝากเช็คผ่านทางสมาร์ตโฟนนั้น เราจะต้องถ่ายรูปเช็คผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารที่เราใช้บริการ

การดูประวัติการทำธุรกรรม

          ธนาคารส่วนใหญ่มีระบบการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีที่ค่อนข้างง่าย เราสามารถตรวจสอบธุรกรรมล่าสุดรวมไปถึงธุรกรรมในเดือนที่ผ่านมา และยังสามารถค้นหาธุรกรรมตามกรอบเวลาที่เรากำหนดรวมไปถึงประเภทของธุรกรรมได้ เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต

การแจ้งเตือน

          ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ Online Banking คือสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ เราสามารถรับข้อความหรืออีเมลเมื่อธนาคารตรวจสอบเจอกับธุรกรรมที่แปลก ๆ ที่อาจจะเกี่ยวกับการโกงหรือยอดเงินในบัญชีของเราเหลือต่ำกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ เราสามารถตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีเงินเข้าหรือเงินออกจากบัญชีของเราได้

          การแจ้งเตือนเหล่านี้มีไว้เพื่อการรับข้อมูลที่เกิดขึ้นในบัญชีของเรา แต่ที่สำคัญการแจ้งเตือนเหล่านี้สามารถช่วยให้เราหยุดการกระทำที่ส่อถึงเจตนาร้าย เช่น หากเราได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีของเราและเราไม่ได้เป็นคนทำเอง เราสามารถติดต่อธนาคารที่ให้บริการได้ทันที และขอให้ธนาคารระงับบัญชีได้

ความแตกต่างระหว่าง Online Banking และธนาคารแบบดั้งเดิม

อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า

          Online Banking มีแนวโน้มที่จะเสนออัตราดอกเบี้ยดอกปีที่สูงขึ้นหรือที่เรียกว่าอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) เพราะ Online Banking ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกับธนาคารแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามแผนกที่ให้บริการทางออนไลน์ของธนาคารแบบดั้งเดิมอาจจะสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันกับ Online Banking ได้ Online Banking ยังมีแนวโน้มที่จะเสนออัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ที่ต่ำซึ่งเรียกว่าอัตราร้อยละต่อปี (APR)

          โดยปกติเราต้องการอัตราดอกเบี้ยที่สูงสำหรับบัญชีออมทรัพย์เพื่อให้เราได้เงินมากขึ้น ในทางกลับกันอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำก็เป็นที่ต้องการสำหรับเงินกู้เพราะจะช่วยลดต้นทุนของเงินกู้ได้ เราควรลองธนาคารหลาย ๆ ธนาคารและลองเปรียบเทียบระหว่าง Online Banking และธนาคารแบบดั้งเดิมดูว่าแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับเรา

ค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า

          Online Bankingมักจจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่ำกว่าธนาคารแบบดั้งเดิมด้วยเหตุผลเดียวกับที่ Online Banking สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้มากขึ้น จริง ๆ แล้ว Online Banking มักจะไม่ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้บริการบางอย่าง หรือเพราะไม่สามารถรักษายอดดุลเฉลี่ยขั้นต่ำได้

การทำธุรกรรมที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า

          ถึงแม้ Online Banking จะสามารถฝากเช็คผ่านสมาร์ตโฟนหรือถอนเงินผ่านตู้ ATM ในเครือได้ แต่หาเราฝากหรือถอนเงินเป็นจำนวนมากบ่อยครั้ง Online Banking อาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ และจำเป็นที่จำต้องดำเนินการผ่านพนักงานในธนาคาร ธนาคารบางแห่งจำกัดจำนวนเงินที่ฝากผ่านสมาร์ตโฟนรายวัน และขอให้เราไปที่ตู้ ATM หรือที่ธนาคารเพื่อทำการฝากเงินที่เกินขีดจำกัดรายวัน

          ธนาคารส่วนใหญ่ยังกำหนดวงเงินรายวันสำหรับจำนวนเงินที่เราสามารถถอนออกจากตู้ ATM ได้ หากเราต้องการเงินสดเพิ่มและไม่สามารถขอให้ธนาคารเพิ่มวงการให้กับเราได้ เราอาจจะต้องขอเบิกเงินสดล่วงหน้าซึ่งจำเป็นต้องไปที่ที่ธนาคารเท่านั้น

          ธนาคารแบบดั้งเดิมยังให้บริการรับรองเอกสาร ตู้นิรภัย และแคชเชียร์เช็ค ซึ่ง Online Banking ไม่สามารถให้บริการเหล่านี้ได้

ปัญหาด้านเทคโนโลยี

          หากเราเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี Online Banking นั้นอาจจะจต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้สูง นอกจากนี้หากคอมพิวเตอร์ของเราหรือระบบธนาคารเกิดล่ม เราอาจจะต้องเลื่อนการทำธุรกรรมที่เร่งด่วนออกไป

          สำหรับสถาการณ์ที่มีความซับซ้อน เช่น ปัญหาในด้าน Customer Service หรือการพูดคุยเกี่ยวกับสินเชื่อประเภทต่าง ๆ เราอาจจะได้รับประโยชน์จากการพูดคุยแบบเห็นหน้าในธนาคารแบบดั้งเดิมมากกว่า Online Banking

ปัญหาด้านความปลอดภัย

          Online Banking มีความปลอดภัยมากกว่าธนาคารแบบดั้งเดิมในหลาย ๆ ด้าน การฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของเราโดยตรงจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีคนขโมยเงินหรือเช็คของเรา นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้มีคนคัดลอกข้อมูลบัญชีของเราได้

          การหลอกลวงทางออนไลน์ เช่น Phishing โดยใช้อีเมลหรือข้อความเพื่อให้เราเปิดเผยข้อมูลสำคัญ แต่ตราบใดที่เราส่งข้อมูลไปยังคนที่เราไว้ใจได้ หรือผ่านเว็บไซต์จริงของธนาคาร เราสามารถหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวออกไปได้ หากเรามีข้อกังวลสามารถติดต่อกับธนาคารได้

เขียนโดย Akiraz

KAIO

อ้างอิงจาก Justin Pritchard (2021) What Is Online Banking?, Available at: https://www.thebalance.com/what-is-an-online-bank-315204 (Accessed: 31th October 2021).

อ้างอิงจาก Amber Murakami-Fester (2021) What Is Online Banking? Definition, Pros and Cons, Available at: https://www.nerdwallet.com/article/banking/pros-cons-online-only-banking (Accessed: 31th October 2021).

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *