เคล็ดลับการดูแลตนเองในช่วงการระบาดของ COVID-19 Part 4

          สวัสดีครับ กลับมาพบกับบทความเคล็ดลับการดูแลตนเองในช่วงการระบาดของ COVID-19 ในตอนนี้ก็เป็น Part ที่ 4 ครับ ก่อนหน้า เราได้ทิ้งท้ายกันไว้ที่การเขียนเชิงสร้างสรรค์สามารถส่งเสริมความมั่นใจ ส่งเสริมความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมไปถึงเพิ่มทักษะทางด้านการสื่อสาร และในบทความนี้เราก็จะมาดูกันว่ามีอะไรอีกบ้าง

          ให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ เมื่อเราอยู่ที่บ้านเราอาจจะไม่สนใจชุดที่เราใส่ว่าเราใส่ชุดอะไร จนบางทีเราอาจจะใส่ชุดนอนทั้งวันไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม เช่น ทำงาน ออกกำลังกาย กินข้าว Carter ได้กล่าวว่า “ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ แต่การแต่งตัวของเรานั้นส่งผลต่อความภาคภูมิใจในตนเอง” ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปไหนไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่อยากทำให้ตัวเองดูดี ลองซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ อาจจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้

          นึกถึงในตอนที่เราจัดการกับความเครียดได้สำเร็จ วิธีคิดคือทุกสิ่งทุกอย่าง การที่เราจมอยู่กับความเครียดและต้องอดกลั้นไปกับมัน อาจจะทำให้เรายิ่งเครียดไปกว่าเดิมได้ Michelle Gielan ผู้เขียนหนังสือ Broadcasting Happiness: The Science of Igniting and Sustaining Positive Change บอกว่า มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะเคยรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก่อน และการที่เราย้อนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้จะช่วยลดความเครียดของเรา และยังทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้

          คิดให้ออกว่าวิธีในการขจัดความเครียดที่ดีที่สุดของเราคืออะไร เราทุกคนต้องรับมือกับความเครียดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละคน และวิธีการลดความเครียดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางวิธีอาจจะใช้ได้ผลกับเรา แต่วิธีเดียวกันอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับคนอื่น ลองทำแบบทดสอบบุคลิกความเครียด ที่ถูกพัฒนาโดย Heidi Hanna ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต เพื่อให้เราเข้าใจความเครียดของเราได้ดีขึ้น และสามารถหาวิธีจัดการความเครียดได้เหมาะสม

          การบริหารเงิน สุขภาพทางการเงินที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องการออมเงินและเงินเกษียณเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องที่เมื่อเราพูดถึงเรื่องการเงินของเราแล้วเรารู้สึกอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการที่เรารู้ว่าเรามีเงินที่เพียงพอกับการใช้ทำสิ่งที่เราต้องการหรือไม่ จาการสำรวจของ PwC สาเหตุของความเครียดลำดับต้น ๆ ของคนจำนวนมากคือเรื่องการเงิน ซึ่งแย่กว่าความเครียดจากเรื่องอื่น ๆ รวมกันอีก การบริหารเงินสามารถช่วยได้ เราอาจจะลองใช้แอปพลิเคชันวางแผนการเงินส่วนบุคคลเพื่อช่วยให้เรามีทักษะในด้านการจัดการเงินได้

          ฝึกสมองให้มีความยืดหยุ่น ความยืดหยุ่นในที่นี้หมายถึงการที่สมองของเรารับความขึ้น ๆ ลง ๆ ของชีวิตได้ขนาดไหน หรือเอาง่าย ๆ ว่า เวลาที่เราเจอเรื่องที่ยกลำบาก เราสามารถล้มแล้วลุกเร็วได้ขนาดไหน เราสามารถลองทำแบบประเมินความยืดหยุ่น เพื่อให้เราได้รู้ว่าทักษะอะไรบ้างที่เราสามารถพัฒนาได้

          เรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุด เราสามารถหยิบยืมประสบการณ์จากคนที่เคยเผชิญหน้าเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้จากในหนังสือหรือภาพยนตร์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเราได้ เช่น หนังสือ Freedom From Anxious Thoughts and Feelings, Unbroken หรือภาพยนตร์เรื่อง Atypical, He Named Me Malala

          จัดระเบียบพื้นที่ในบ้าน ตามที่ Mayo Clinic ได้กล่าวไว้ว่า ความยุ่งเหยิงหรือไม่เป็นระเบียบอาจจะนำไปสู่ความเครียดและความวิตกกังวลมากขึ้นได้ และเมื่อผู้คนได้บอกว่าบ้านของพวกเขาไม่เป็นระเบียบ พวกเขาจะมีคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนแห่งความเครียดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้เรารู้สึกฟุ้งซ่านมากขึ้นและอาจจะส่งผลต่อการนอนหลับ ทำให้เรานอนหลับยากขึ้นได้ ซึ่ง Mayo Clinic ได้แนะนำให้เราลองใช้เวลาสัก 15 นาทีต่อวันในการจัดการกับพื้นที่ในบ้านที่รกที่สุดของเรา ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะเล็กก็ตาม เช่นลิ้นชักที่มีขยะเต็มไปหมด

          เข้าร่วมกลุ่มหนังสือออนไลน์ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส เราอาจจะเข้าร่วมพบปะสนทนากันได้อย่างลำบาก แต่เราก็ยังสามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือได้ โดยการเข้าร่วมกลุ่มหนังสือออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต

          เรียนภาษาใหม่ การเรียนภาษาใหม่ ๆ จะทำให้เรามีกรอบความคิดในการเตรียมตัวไปเที่ยวช่วงวันหยุด หรือการใช้เวลาฝึกฝนภาษาที่เรารู้อยู่แล้วก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฝึกฝนสมองและยังเป็นการฝึกฝนทักษะที่สามารถนำมาใช้จริงได้ การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Frontier of Psychology เดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2017 ได้ชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้ภาษาช่วยชะลอความชราทางปัญญาได้ และอาจจะช่วยชะลอการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้

          ท่องเที่ยวผ่านอาหาร เราอาจจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศไม่ได้ในตอนนี้ แต่อีกนัยหนึ่งเราก็อาจจะไปเที่ยวที่นั่นได้ โดยการทำอาหารที่อยู่ในที่ที่เราไม่เคยไปหรืออยากไป เป็นการปรับเปลี่ยนความคาดหวังในการไปเที่ยวของเราให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ Effland ผู้อำนวยการคลินิกของ Pathlight Mood & Anxiety Center ได้กล่าวไว้

          เรียนหลักสูตรออนไลน์ระดับมหาวิทยาลัยฟรี Scott Kaiser ผู้อำนวยการด้านความรู้ความเข้าใจผู้สูงอายุของ Pacific Neuroscience Institute ได้กล่าวว่าการเป็นนักเรียนตลอดชีวิตเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มพลังสมองและฝึกฝนการดูแลตนเอง

          ในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรให้เรียนรู้ฟรี ๆ และยังมีในอีกหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เช่น Coursera และ edX ซึ่งเราสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจของเรา

          การใช้ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างงานศิลปะอื่น ๆ สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ ซึ่งช่วยให้เรามีสมาธิในการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการระบายอารมณ์ของเราได้ ตัวอย่างเช่น การวาดภาพ การระบายสี หรือการถักนิตติ้ง

          ส่งการ์ด การดูแลตัวเองของเราอาจจะหมายถึงการทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารักก็ได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้กับคนที่เราติดต่อด้วยเท่านั้น แต่อาจจะช่วยให้เรารู้สึกดีเหมือนกับที่เรารู้สึกอยู่ก็ได้ Effland ได้กล่าวว่า วิธีง่าย ๆ ในการทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารัก เพียงแค่เราเขียนการ์ดและส่งการ์ดเท่านั้นเอง

          ฟัง Podcast ที่ช่วยยกระดับชีวิตของเรา ไม่เพียงแต่การฟัง Podcast จะช่วยให้เราได้รับคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลตนเอง แต่ยังช่วยให้เราเห็นแสงสว่างและทำให้เรารู้สึกโล่งใจอีกด้วย

เขียนโดย Akiraz

KAI

อ้างอิงจาก Sarah DiGiulio และ Elizabeth Millard (2021) 69 Top Self-Care Tips for Taking Care of You During the Coronavirus Pandemic, Available at: https://www.everydayhealth.com/wellness/top-self-care-tips-for-being-stuck-at-home-during-the-coronavirus-pandemic/ (Accessed: 14th September 2021).

อ้างอิงจาก Mark Antoniou และ Sarah M. Wright (2017) Uncovering the Mechanisms Responsible for Why Language Learning May Promote Healthy Cognitive Aging, Available at: https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg.2017.02217/full (Accessed: 14th September 2021).

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *