มาดูกันว่า Chainlink (LINK) คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

Chainlink

          สวัสดีครับ Smart Contract นั้นทำให้ข้อตกลงต่าง ๆ บน Blockchain ทำงานโดยอัตโนมัติ โดย Smart Contract ได้ช่วยประเมินข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งหากตรงตามเงื่อนไขบางอย่างที่กำหนดไว้ข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงมีปัญหาบางอย่างอยู่

          Blockchain ไม่มีวิธีเข้าถึงข้อมูลจากภายนอกที่ดี ทำให้เป็นเรื่องยากในการเชื่อมต่อข้อมูลนอกเครือข่ายกับข้อมูลบนเครือข่าย Blockchain ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ Smart Contract ต้องเผชิญ

          Chainlink พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการให้บริการ Oracle แบบกระจายอำนาจ โดย Oracle นั้นคือซอฟต์แวร์หนึ่งที่แปลข้อมูลภายนอกจากเป็นภาษาที่ Smart Contract สามารถเข้าใจได้ (และในทางตรงกันข้าม)

          ซึ่งอะไรที่ทำให้ Chainlink แตกต่างจาก Blockchain Oracle ตัวอื่น ในบทความนี้เราจะมาดูถึงเรื่องนี้กัน และรวมไปถึงว่า Chainlink คืออะไร ทำงานอย่างไร

Chainlink คืออะไร

          Chainlink เป็นเครือข่าย Oracle แบบกระจายอำนาจที่อยู่บน Blockchain ซึ่งช่วยให้ Smart Contract สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลจากภายนอกได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะรวมไปถึง API, ระบบภายใน หรือฟีตข้อมูลประเภทอื่น ๆ ภายนอก โดย LINK นั้นเป็นเหรียญที่มีการเข้ารหัส ERC-20 ซึ่งใช้ชำระค่าบริการ Oracle บนเครือข่ายนี้

          สิ่งที่ทำให้ Chainlink เป็นแบบกระจายอำนาจนั้น ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจก่อนว่า Oracle แบบรวมศูนย์นั้นคืออะไร โดย Oracle แบบรวมศูนย์ หรือ Centralized Oracle คือผู้ให้บริการข้อมูลภายนอกที่ให้ข้อมูลกับ Smart Contract เพียงรายเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ โดยเมื่อกลับมามองว่าถ้า Oracle ให้ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลไม่ถูกต้องแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ระบบทั้งหมดที่พึ่ง Oracle ก็จะเกิดความเสียหาย ซึ่งเรามักจะเรียกปัญหาเหล่านี้ว่า The Oracle Problem ซึ่ง Chainlink พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้อยู่

          Chainlink เป็นผลิตภัณฑ์ของ Startup ของเทคโนโลยี Blockchain ที่เรียกว่า SmartContract ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 2014 Chainlink เริ่มเผยแพร่ Whitepaper ในปี ค.ศ. 2017 โดย Steve Ellis, Ari Juels และ Sergey Nazarov ใน Whitepaper ได้สรุปวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ เครือข่าย Oracle แบบกระจายอำนาจของพวกเขาไว้ อย่างที่กล่าวมา เทคโนโลยีของ Chainlink นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของ Smart Contact บน Blockchain โดยการที่สามารถให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือแก่ Blockchain ได้ ในตอนเริ่มต้นโครงการนี้ได้เริ่มให้บริการบน Blockchain ของ Ethereum แต่ตอนนี้ก็ได้ขยายไปยัง Blockchain อื่น ๆ

Sergey Nazarov, Co-Founder

Sergey Nazarov, Co-Founder

        สำหรับการบริหารจัดการเทคโนโลยีของ Chainlink นั้น บริษัท FinTech ที่แสวงหาผลกำไรอีกบริษัทโดยมี Sergey Nazarov เป็น CEO ก่อตั้งขึ้น ซึ่งที่มีชื่อว่า SmartContract Chainlink Ltd. บริษัทนี้ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเคย์แมน ซึ่งมีทีมพัฒนาและทีมวิจัยจากทั่วโลกรวมตัวกันอยู่ภายใต้ชื่อ ChainlinkLabs ซึ่งกำลังพัฒนาเทคโนโลยี Chainlink ต่อไป

Chainlink ทำงานอย่างไร

          Chainlink จะใช้เครือข่ายของ Node เพื่อพยายามที่จะให้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและถูกต้องแก่ Smart Contract เท่านี้จะทำได้

          โดยสมมติว่า Smart Contract ต้องการข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริง และได้ทำการร้องขอข้อมูล โปรโตคอล Chainlink ก็จะจดบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้และส่งต่อไปยัง Chainlink Node เพื่อประมูลตามคำร้องขอ

          สิ่งที่ทำให้กระบวนการเหล่านี้ที่เกิดขึ้นมีประสิทธิภาพก็คือวิธีที่ Chainlink สามารถตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายแหล่งพร้อมกันอันเนื่องมาจากระบบชื่อเสียงภายใน Chainlink สามารถระบุได้ว่าแหล่งข้อมูลใดมีความน่าเชื่อถือซึ่งมีความแม่นยำสูง สิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มความแม่นยำของผลลัพธ์ได้อย่างมาก และปกป้อง Smart Contract จากการโจมตีทุกประเภท

          ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับ LINK โดย Smart Contract ที่ร้องขอข้อมูลได้จ่ายค่าข้อมูลด้วย LINK แก่ผู้ให้บริการ Chainlink Node เพื่อแลกเปลี่ยนกับบริการของพวกเขา โดยราคานั้นจะถูกกำหนดโดยผู้ให้บริการ Node ตามสภาวะตลาดของข้อมูลนั้น ๆ

          ผู้ให้บริการ Node สามารถมีส่วนร่วมในเครือข่ายโดยการ Stake เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการในระยะยาว เช่นเดียวกับ โมเดล Cryptoeconomic ของ Bitcoin ผู้ให้บริการ Chainlink Node นั้นจะมีแรงจูงใจในการทำในลักษณะที่มีความน่าเชื่อถือแทนที่จะมีความมุ่งร้ายที่เครือข่าย

Chainlink และ DeFi

          นับตั้งแต่ที่ Decentralized Finance (DeFi) ได้รับความนิยมมากขึ้น บริการ Oracle คุณภาพสูงก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ในท้ายที่สุดโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องใช้ Smart Contract ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และพวกเขาต้องการใช้ข้อมูลจากภายนอกเพื่อให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเหมาะสม

          ด้วยบริการ Oracle แบบรวมศูนย์ แพลตฟอร์ม DeFi สามารถปล่อยให้ตัวเองเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในหลาย ๆ รูปแบบ รวมไปถึงการโจมตีแบบ Flash Loan ผ่านการควบคุมของ Oracle ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นในหลาย ๆ ครั้งแล้ว และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตหากยังคงใช้ Oracle แบบรวมศูนย์ต่อไป

          ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องนักที่หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า Chainlink สามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดเหล่านี้ได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าโครงการต่าง ๆ จะอาศัยเทคโนโลยีของ Chainlink เช่น Synthetix, Aave และอื่น ๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอีกด้วย หากมีแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มที่ใช้บริการ Oracle เดียวกัน แล้ว Chainlink หยุดทำงานอย่างกะทันหัน แพลตฟอร์มทั้งหมดจะเจอกับปัญหา

          อาจจะดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว Chainlink ก็เป็นบริการ Oracle แบบกระจายอำนาจซึ่งเมื่อเวลาเกิดปัญหาคาดว่าจะไม่ได้เกิดที่จุดเดียว โดยในเดือนกันยายน 2020 Chainlink Node ได้ประสบกับปัญหาการโจมตีโดยการสแปม ซึ่งผู้โจมตีสามารถได้รับ ETH จากผู้ให้บริการ Node ไปได้ถึง 700 ETH ซึ่งแม้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นเรื่องที่เตือนใจว่าไม่ใช่ทุกระบบที่จะมีความปลอดภัยต่อภัยอันตรายต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์

อุปทานของ LINK และการปล่อย LINK

          LINK มีอุปทานสูงสุดอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญ โดย 35% นั้นถูกขายในระหว่าง ICO ในปี ค.ศ. 2017 และมีอยู่ในการครอบครองของบริษัทก่อตั้ง Chainlink ประมาณ 300 ล้านเหรียญ

          ตรงกันข้ามกับสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่น ๆ LINK ไม่มีการขุดและการ Stake เพื่อเพิ่มอุปทานหมุนเวียน

วิธีการเก็บ LINK

          LINK นั้นไม่มี Blockchain เป็นของตัวเอง ซึ่ง LINK เป็นเหรียญที่อยู่บน Blockchain  ของ Ethereum  โดย LINK ถูกเข้ารหัสตามมาตรฐาน ERC-667 ซึ่งเป็นส่วนขยายจากมาตรฐาน ERC-20 โดยสรุปได้ว่าเราสามารถเก็บ LINK ไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับ เช่น Trust Wallet หรือ MetaMask

LINK ใช้ทำอะไร

          ดังที่กล่าวไปในก่อนหน้านี้ ผู้บริการ Node Chainlink สามารถ Stake LINK เพื่อเสนอ การประมูลให้กับผู้ซื้อข้อมูลที่ต้องการซื้อข้อมูลได้ โดยผู้ให้บริการ Node ที่ชนะการประมูล จะต้องให้ข้อมูลกับ Smart Contact ที่ได้ดำเนินการร้องขอข้อมูล เงินทั้งหมดที่ถูกจ่ายให้กับผู้ให้บริการ Node นั้นจะอยู่ในรูปแบบของเหรียญ LINK

          โดยแนวทางนี้ได้กระตุ้นให้ผู้ให้บริการ Node นั้นบริการ Node ต่อไป เพราะการมีเหรียญมากขึ้นหมายถึงการเข้าถึงสัญญาของข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้ที่ให้บริการ Node ตัดสินใจที่จะฝ่าฝืนกฎจะถูกลบเหรียญ LINK ออกไปทั้งหมด

LINK Marines คือใคร

          สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลนั้นถือว่าเป็นเรื่องแปลกที่ทางโครงการจะตั้งชื่อเล่นกับสมาชิกในชุมชน โดย Chainlink เป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกสุดที่ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ ซึ่งชื่อนั้นก็คือ LINK Marines

          ในแง่ของ DeFi และระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลนั้นการสร้างชุมชนแบบนี้กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ โดยผู้ให้การสนับสนุนหลักสามารถเข้ามามีส่วนร่วมและให้ความสนใจทางโซเชียลมีเดียในโครงการได้ ซึ่งสามารถเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นในตัวชี้วัดอื่น ๆ ได้

เขียนโดย Akiraz

KAIO

อ้างอิงจาก Binance Academy (2020) What Is Chainlink (LINK)?, Available at: https://academy.binance.com/en/articles/what-is-chainlink-link (Accessed: 5th January 2022).

อ้างอิงจาก Real Vision (2021) What Is Chainlink (LINK)?, Available at: https://www.realvision.com/blog/what-is-chainlink (Accessed: 5th January 2022).

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *