6 วิธีเปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ที่จะเลิกคิดมาก คิดฟุ้งซ่านอีกต่อไป

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนอาจจะมีอาการ คิดมาก ขี้กังวล ฟุ้งซ่าน หรือตัดสินใจช้า บางคนตัดสินใจอะไรไปแล้ว ก็ยังมาคิดมากกังวลกับสิ่งที่ตัดสินใจไป กลัวว่ามันจะไม่ดี ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ อาการเหล่านี้จะทำให้ตัวเราเองนั้น มีสุขภาพจิตที่ไม่ดี และไม่ใช่แค่ตัวเราเท่านั้น คนรอบข้างเราก็อาจจะรู้สึกไม่ดี อึดอัดใจไปด้วยก็ได้ อีกทั้งบางคนก็อาจจะเป็นคนที่ขี้กังวล คิดมาก คิดเยอะ อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาวได้ ไม่ดีแน่ ๆ ถ้าเราจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แต่จะแก้นิสัยแบบนี้ได้ยังไงหล่ะ ในเมื่อมันเกิดขึ้นบ่อย คิดมากคิดบ่อยจนเคยชินไปละ โดยวันนี้เราจะนำวิธีที่เปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ให้เลิกคิดมาก ขี้กังวล กันเถอะ

https://cdn.pixabay.com/photo/2020/04/07/04/17/desperate-5011953_960_720.jpg

เขียนความคิดตัวเองออกมา

เวลาที่เราเครียด คิดมาก หรือไม่สามารถตัดสินใจบางอย่างได้ หรือมีความลังเลใจต่าง ๆ ก็ลองเขียนความรู้สึก เขียนความคิดที่เรากำลังคิดออกมา แล้วลองค่อย ๆ อ่าน ทบทวนดูว่า เรากำลังหลงประเด็นรึเปล่า เรากำลังคิดเยอะเกินไปไหม ลองหาทางเลือก ดูว่าทางไหนที่สอดคล้องกับแผนที่เราวางไว้มากที่สุด ทบทวนอย่างใจเย็น และมั่นใจในสิ่งที่เราเลือกหรือตัดสินใจไปแล้ว ซึ่งการเขียนสิ่งที่คิดออกมาจช่วยให้เราไม่คิดวนไปวนมา ทำให้ความคิดและการทำงานของเราเป็นระบบมากขึ้น อีกทั่งประโยชน์ของการเขียนความคิด ความรู้สึกของเราลงไป ก็คือการได้ระบายออกมา ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น ไม่ต้องเก็บมาคิดให้อึดอัดภายในใจ และช่วยทำให้สมองของเราปลอดโปร่งอีกด้วย แค่นี้ก็จะช่วยให้เราคิด ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และไม่คิดมากแล้วนั้นเอง

ลองมองสิ่งที่เราคิด

ลองทบทวน มองสิ่งที่เราคิดดูบ้าง อย่าเอาแต่ปล่อยผ่านความคิดต่าง ๆ ของเรา เพราะความคิด ความเชื่อของเรานั้นจะเป็นสิ่งที่กำหนดว่าเราจะทำอะไรแบบไหน และหากว่าเราปล่อยผ่านสิ่งเล็ก ๆ ไป บางครั้งมันอาจจะเป็นจุดเล็ก ที่มันนั้นไม่ได้เล็กตามที่คิด แล้วมาขัดกับสิ่งที่เราต้องทำ ซึ่งก็จะทำให้เราสับสนมากยิ่งขี้น ลังเลใจมากขึ้น คิดเยอะขึ้น แต่หากว่าเรากำลังคิดแต่ในสิ่งเดิม ๆ ไม่จบสักที ก็ลองใจเย็น ตั้งสติแล้วเรียกตัวเองกลับมา โดยทำจากการ ฝึกสมาธิ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เราไปค่ายนั่งสมาธิ แค่ให้เราทำสมาธิ 5-10 นาที ปล่อยสมองให้โล่งสักพัก เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีสติมากขึ้น หยุดคิดสิ่งที่เรากำลังคิดวนไปวนมาได้ แล้วค่อยมาทบทวนดูอย่างเป็นระบบ ว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อดี

ยอมรับ และเคารพความคิดของตัวเอง

บางครั้งที่เรากำลังคิดมาก คิดฟุ้งซ่าน อาจจะเป็นเพราะการที่เราไม่มั่นใจในความคิดของตัวเราเอง ว่าสิ่งที่คิดนั้นมันดีพอไหม ซึ่งทำให้เราเกิดความสับสน ลังเลใจมากขึ้น และเอาแต่พยายามที่จะเอาวิธีอื่นที่จะเข้ามาช่วยแทน ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เราเลือกไว้ตามความคิดของเรา อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว และเป็นทางที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดด้วยก็ได้ ดังนั้นให้เราลองเชื่อมันในตัวเองดู เชื่อในสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราทำ ก็จะช่วยลดความกังวลใจไปได้ แต่ถ้าหากใครที่ไม่มั่นใจจริง ๆ ก็ลองไปปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดกับคนอื่น เพื่อดูความคิดเห็นของคนอื่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เรา หรือหากเขาเห็นข้อผิดพลาดก็จะช่วยแนะให้เราได้ไปปรับปรุงและทำผลออกมาให้ดีมากกว่าเดิม ซึ่งก็ช่วยให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

มองที่ปัจจุบัน อย่าเอาแต่คาดการณ์อนาคต

แน่นอนว่าการที่เรามองไปถึงอนาคต มองผลที่จะตามมานั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่หากว่าเราเอาแต่กังวล เอาแต่มองในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นมากเกินไป ก็จะไม่ดีต่อตัวเราเช่นกัน เพราะมันจะทำให้เราไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไร แล้วก็จะมัวแต่ลังเลใจว่าจะเปลี่ยนวิธีดีไหม ก็ไม่ต่างกับคนที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ก้าวขาไม่ออก และไม่เดินกลับมาแต่กยุดอยู่กับที่ ดังนันแล้วเราลองมามองใหม่ดูว่า ตอนนี้มีอะไรบ้างที่เรามารถทำได้ มีอะไรบ้างที่เราจะสามารถลงมือตอนนี้ เพื่ออนาคตที่ดี เหมือนกับที่มีคนพูดว่า ไม่มีอะไรได้มา ถ้าเราไม่ลงมือทำ เพราะฉะนั้นแล้วหยุดคิด พักความกังวลใจไปก่อน แล้วลงมือที่จะทำเลยตอนนี้

หาอะไรทำ เพื่อหยุดความคิดนั้น

หยุดคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่ได้เลย จะทำยังไงก็เอาแต่คิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา งั้นเราลองหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความคิด ความสนใจตัวเองที่จดจ่อกับเรื่องอื่น ก็เหมือนกับเวลาที่เราอกหักลืมคน ๆ นึงไม่ได้ คิดถึงแต่เขาตลอด วิธีการคือหาอะไรทำเพื่อให้ลืมไปชั่วขณะ วิธีนี้ก็ช่วยให้เราหยุดความคิดเราได้จริง เราอาจจะหันไปออกกำลังกาย ไปทำความสะอาดบ้าน หรือบางคนอาจเลือกที่จะทำงานแทน แต่ต้องระวังการกระทำที่จะเบี่ยงเบนความสนใจตนเองด้วย เพราะเราทำเพื่อให้เราเดินไปข้างหน้า แล้วก็เลิกคิดเรื่องพวกนั้นบ้าง แต่หากเราทำนู้นทำนี้มากเกินจนเพื่อให้ลืม ก็จะทำให้เราเสียสุขภาพได้เช่นกัน พอเราร่างกายอ่อนเพลียมาก ๆ ไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็จะเกิดความเครียดสะสมได้ จนทำให้เราสามารถเป็นโรคซึมเศร้าได้ ก็ควรทำอะไรแต่พอดีด้วยนะ

อย่าเอาความผิดพลาดในอดีตมาเป็นความกลัว

บางครั้งการที่เราแต่คิดเยอะ คิดมาก ลังเลใจอยู่ได้ อาจจะมาจากปัญหาในอดีตที่ผ่านมา ความผิดพลาดต่าง ๆ ของเราเอง ของคนอื่น ของทีม หรือแม้กระทั่งคำบอกเล่าก็ตาม ที่ทำให้เรากลัว และไม่กล้าที่จะตัดสินใจ หรือก็เอาแต่คิดเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วความผิดพลาดที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่บอกให้เราระมัดระวังเพื่อไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นสิ่งที่จะบอกเราได้ว่า เราควรระวังส่วนไหน แก้ไขส่วนไหน หรือเราจะป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งแบบนั้นอีก เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วอย่าเอาความผิดพลาดในอดีตมาเป็นสิ่งขวางกั้นเราไว้ ให้เรานำมาเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราโตขึ้นและจะไม่ทำผิดพลาดแบบนั้นอีก

เรียบเรียงบทความโดย AMR

immie (2020) 6 วิธีเปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ที่จะเลิก คิดมาก ฟุ้งซ่านอีกต่อไป, Available at: https://goodlifeupdate.com/lifestyle/208510.html (Accessed: 17th August 2020)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *