การนำ Blockchain มาใช้งานใน FinTech มีอะไรบ้าง แบบเข้าใจง่าย ๆ
สวัสดีครับ การเข้ามาของ Blockchain ทำให้การทำงานต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป เนื่องจาก Blockchain จะมีการเข้ารหัสทางคอมพิวเตอร์ทำให้ข้อมูลที่ถูกเก็บมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยที่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกกระจายและเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่บนเครือข่าย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Decentralized หรือการกระจายอำนาจ ทุกการกระทำใด ๆ ก็ตามทุก ๆ คนที่อยู่บนเครือข่ายสามารถเห็นและรับรู้ได้ ซึ่ง Blockchain นั้นเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในอุตสาหกรรม FinTech อย่างยิ่ง ในบทความนี้เราจะมาดูการนำ Blockchain มาใช้งานในอุตสาหกรรม FinTech กันอย่างไรบ้าง
ตัวตนของผู้ใช้บริการบนโลกดิจิทัล
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของธนาคารแบบออนไลน์คือความปลอดภัย ธุรกรรมที่เกิดขึ้นในธนาคารต้องมีความปลอดภัยและได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ธนาคารส่วนใหญ่จะมีอัลกอริทึมระบบรักษาความปลอดภัยของตนเองในการยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน แต่สำหรับผู้ใช้งานเองอาจจะเจอกับความยุ่งยากเสมอ ๆ เพราะผู้ใช้ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งในการที่จะทำอะไรสักอย่าง เช่น การตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ การดูประวัติการทำธุรกรรม กว่าจะทำได้แต่ละครั้งก็ต้องยืนยันตัวตนให้มั่นใจว่าใช้ตัวผู้ใช้จริง ๆ ซึ่งเสียเวลามาก
การที่เรานำ Blockchain เข้ามาใช้ เราสามารถสร้างตัวตนของผู้ใช้บริการบนโลกดิจิทัล หรือ Digital identity แทนที่จะพึ่งพาธนาคาร ซึ่งเราสามารถนำตัวตนที่เราสร้างกลับมาใช้ซ้ำได้ ทำให้ประหยัดเวลาอีกด้วย
เนื่องจากข้อมูลถูกเก็บไว้ในเครือข่าย Blockchain ทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงิน แชร์ข้อมูล และดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับธนาคารอื่น ๆ ได้ และยังช่วยให้การยืนยันตัวตนในแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะบน Blockchain สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และมีความปลอดภัยสูงมาก
การซื้อขาย
จนถึงทุกวันนี้ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจการซื้อขายต้องใช้เอกสารต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และถ้าหากเราซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์การชำระเงินและการโอนเงินก็จะเกิดความล่าช้า จึงจำเป็นที่ต้องสร้างระบบที่สามารถใช้ร่วมกับผู้ให้บริการการซื้อขายอื่น ๆ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของการซื้อขายได้
Blockchain สามารถปรับปรุงกระบวนการการทำงานได้ทั้งหมด โดยข้อมูลการซื้อขายที่ได้รับจะเป็นแบบเรียลไทม์ ทำให้ข้อมูลที่ได้รับเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจในทางธุรกิจ รวมไปถึงการช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดต่าง ๆ ได้
การชำระเงินได้ทั่วโลก
Blockchain รองรับสกุลเงินแบบ Decentralized ทำให้เราไม่จำเป็นต้องทำการชำระหรือโอนเงินผ่านธนาคาร และยังช่วยให้ชำระเงินได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีค่าใช้จ่ายในการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่งน้อยกว่าการทำผ่านทางธนาคาร เนื่องจากการโอนผ่าน Blockchain ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากบุคคลที่สามหรือธนาคาร ทำให้ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการชำระเงินน้อยลง
การลงทุนและการปล่อยสินเชื่อ
นายธนาคารส่วนใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ต้องการประวัติเครดิตและรายละเอียดทางการเงิน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเงินที่ลงทุนไปยังคงอยู่ และด้วยการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการลงทุน ทำให้การตรวจสอบบัญชีและการดูแลบัญชีสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ผู้คนส่วนใหญ่ยังสามารถร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามในการศึกษาวิธีการเริ่มลงทุนในช่วงแรก ๆ ก็ตาม แต่ก็ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ทำได้ง่าย ซึ่งมีตัวเลือกให้ลงทุนหลาย ๆ อย่าง เช่น IEO (Initial exchange offerings) และ STO (Secure token offerings)
การตรวจสอบ
การตรวจสอบบัญชีเป็นการลดความไม่สอดคล้องให้แคบลง สำหรับธนาคารส่วนใหญ่การตรวจสอบต่าง ๆ ใช้เวลาในการดำเนินการค่อนข้างช้า เพราะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดขององค์กรและรัฐบาล
การตรวจสอบสามารถทำได้ง่ายบน Blockchain เราสามารถเพิ่มบันทึกลงในบัญชีต่าง ๆ ได้ ซึ่งช่วยให้เราเก็บและอัปเดตข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีหลักฐานการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ และยังช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างถูกบันทึกลงบน Blockchain และไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะมีความผิดพลาด เพราะ Blockchain ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Malcom Ridgers (2020) Top five use cases for blockchain in fintech, Available at: https://www.itproportal.com/features/top-five-use-cases-for-blockchain-in-fintech/ (Accessed: 18th September 2021).